หลักสูตรประถมศึกษา

โปรแกรมวิชาการ

การจัดการเรียนการสอนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ยึดหลักผู้เรียนสำคัญที่สุด มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพของปัจเจกบุคคล ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา โดยจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่เอื้อต่อการเรียน ทั้งด้านอาคารสถานที่และการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้หลักคือ วิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสอนภาษาจีนเป็นสาระเพิ่มเติม

การจัดกระบวนการเรียนรู้มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพสู่ความเป็นสากล ส่งเสริมให้มีความภูมิใจในความเป็นไทย ดำรงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีของไทย ขณะเดียวกับที่มีความเข้าใจและพร้อมที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมที่ดีของนานาชาติ

เป้าหมายหลัก

หลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนบางกอกทวิวิทย์เป็นหลักสูตร 2 ภาษา คือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งมีจุดหมายหลักคือให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ของทั้ง 2 ภาษามาใช้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีทักษะทั้งด้านการฟัง พูด อ่านและเขียน

ในระดับการเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น มุ่งพัฒนาทักษะภาษาเพื่อการสื่อสารคือ การฟัง การพูดและการอ่าน ส่วนในระดับสูงขึ้นเพิ่มทักษะการอ่านจับใจความและการเขียนที่เกิดจากจินตนาการหรือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของผู้เรียน

การส่งเสริมให้กำลังใจ

ความสำเร็จของนักเรียนสะท้อนถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเรียนการสอนของโรงเรียน นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนบางกอกทวิวิทย์ สามารถไปศึกษาต่อได้ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงต่างๆ โรงเรียนได้นำเสนอความสำเร็จของนักเรียนทั้งด้านวิชาการ การกีฬา ศิลปะและดนตรี ในสื่อต่างๆ ของทางโรงเรียนคือ เว็บไซท์ เฟซบุ๊ก และวารสาร Hello Kids ซึ่งทางโรงเรียนได้คัดเลือกงานเขียนและงานศิลปะของนักเรียนลงในวารสารนี้อย่างต่อเนื่อง

การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

การเรียนการสอนของโรงเรียน นอกจากจะหล่อหลอมให้นักเรียนเป็นผู้มีความรู้และมีความมั่นใจในตนเองแล้ว ยังส่งเสริมให้นักเรียนเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมผ่านกิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เช่นการค้นคว้าหาข้อมูล การอภิปรายในห้องเรียน ในระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลายขึ้นไปจะมีการเสนอผลงานและรายงานในห้องเรียน นักเรียนจะได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น เช่นทำโครงงานกลุ่ม ซึ่งจะช่วยปลูกฝังให้เป็นผู้มีความรับผิดชอบในการทำงาน เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข

การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ

ESL (English as a Second Language)
โรงเรียนใช้หลักสูตรวิชาภาษาอังกฤษ (ESL) ของโรงเรียนนานาชาติเคมบริดจ์ในการเรียนการสอน และการวัดผลการเรียนรู้ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษมีหลายรูปแบบ เช่นการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ (inquiry-based learning) ซึ่งผู้เรียนจะมีโอกาสลงมือปฏิบัติและใช้ความคิดของตนเองอย่างเต็มที่ด้วยการตั้งคำถาม ค้นหาคำตอบและหาหลักฐานและเหตุผลเพื่อสนับสนุนคำตอบ และจะมีการอภิปรายในห้องเรียน ซึ่งจะมีทั้งข้อโต้แย้งและข้อสนับสนุน สำหรับคำอธิบายขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 2 โรงเรียนจัดการเรียนโดยใช้การวิจัยเป็นฐาน (researck-based teaching strategies) เพื่อวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้ของผู้เรียนรายบุคคล การเรียนการสอนจะเน้นทักษะการอ่านออกเขียนได้ของผู้เรียน เมื่อผู้เรียนมีทักษะในการอ่านและเขียนภาษาอังกฤษที่ดี ก็จะช่วยในการเรียนวิชาอื่นๆ ด้วย เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษา สำหรับทักษะการเขียนและไวยากรณ์สำหรับนักเรียนช้้นประถมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป โรงเรียนจัดการเรียนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบประสบการณ์ (Experiential way of Learning) เมื่อนักเรียนได้รับมอบหมายให้เขียนเรื่อง นักเรียนจะเริ่มตั้งคำถาม คิดวิเคราะห์ หาคำตอบด้วยตนเอง แล้วนำข้อคิดไปลงมือเขียนโดยใช้ความรู้หลักไวยากรณ์ประกอบ

วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

STEAM (Science, Technology, Engineering, Arts and Mathematics)
โรงเรียนจัดการเรียนการสอนแนว STEAM ศึกษา ซึ่งบูรณาการวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปะศึกษาและคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมการสอนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ เป้าหมายของหลักสูตรก็คือ มุ่งให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดคำนวณ โดยเน้นพัฒนาการด้านการคิดวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะในการปรับตัว การอยู่ร่วมกับผู้อื่น และรู้จักการแก้ปัญหา โดยเริ่มตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซี่งโรงเรียนจะใช้นวัตกรรมการเรียนคณิตศาสตร์ด้วยของเล่นและอุปกรณ์การเล่นที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์


วิชาสังคมศึกษาและศิลปะศึกษา

Performance and Project Based Approach
วิชาสังคมศึกษาและศิลปะศึกษาสอนแบบประเมินการปฏิบัติและแบบโครงงานเป็นพื้นฐาน (Performance and Project-based Learning) เรียนวิชาภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การประเมินผลการเรียนมีหลากหลายวิธี เช่น โดยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถ ทักษะ และพฤติกรรมการเรียนให้ตรงกับเป้าหมายของการเรียนการสอนที่กำหนดไว้ ลักษณะการประเมิน จะประเมินผ่านการเสนอผลงาน การทดลอง การแสดงบทบาทสมมุติ และเสนอโครงงานแบบเป็นกลุ่มหรือรายบุคลล


กิจกรรมเสริมหลักสูตร

กิจกรรมเสริมหลักสูตรหลังเวลาเรียน

การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งกิจกรรมในห้องเรียนและกิจกรรมเสริมหลักสูตร โรงเรียนมุ่งเน้นที่จะปลูกฝังให้นักเรียนเป็นผู้มีความมั่นใจในตนเอง เรียนรู้การแก้ปัญหาและเป็นผู้ใฝ่รู้ กิจกรรมเสริมหลักสูตรหลังเวลาเลิกเรียนจะมีทั้งกิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้และกิจกรรมนันทนาการต่างๆ

กิจกรรมเสริมวิชาการ

1. ภาษาอังกฤษระดับพื้นฐาน - การอ่านและการเขียน
วิชาภาษาอังกฤษระดับพื้นฐานจะช่วยเพิ่มทักษะการอ่าน การฝึกออกเสียง (Phonics) เรียนคำศัพท์ อ่านจับใจความและฝึกแต่งประโยค จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้ผู้เรียนอ่านภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว มีความเข้าใจและสามารถแต่งเรียงความได้

2. ภาษาอังกฤษระดับกลาง - สนทนาภาษาอังกฤษ และทักษะการสื่อสาร
วิชาภาษาอังกฤษระดับกลางประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลาย เช่น ฝึกการสนทนา โดยการจับคู่หรือเป็นกลุ่ม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการพูด และเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ สามารถสนทนาได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

3. ไวยากรณ์อังกฤษ
วิชาไวยากรณ์อังกฤษ จะช่วยให้ผู้เรียนได้เพิ่มทักษะทางไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เนื่องจากไวยากรณ์เป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญที่จะส่งผลต่อการพัฒนาการเรียนภาษาทั้งในด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนได้ดี ผู้เรียนจะได้เข้าใจโครงสร้างของประโยค การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการใช้คำศัพท์ต่างๆ

4. TSL (Thai as a Second Language)
วิชาภาษาไทยสำหรับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนต่างชาติพัฒนาความรู้ภาษาไทยทุกทักษะ ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน อ่านจังใจความ เพื่อช่วยให้นักเรีนต่างชาติสามารถสื่อสาร อ่านออก เขียนได้ เพื่อที่จะสามารถเรียนร่วมในห้องเรียนตามหลักสูตรได้เร็วยิ่งขึ้น

5. วิชาภาษาไทย
วิชาเสริมทักษะภาษาไทย ผู้เรียนจะเรียนทั้งหลักภาษาและวรรณคดี ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนอ่านและเขียนภาษาไทยได้ดียิ่งขึ้น

6. คณิตศาสตร์ (ภาคภาษาไทย)
วิชาคณิตศาสตร์ (ภาคภาษาไทย) ผู้เรียนจะได้ฝึกทำแบบฝึกหัด รวมทั้งการทำเลขในใจ การแก้โจทย์ปัญหา ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ ทำให้ผู้เรียนฝึกคิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ สามารถวิเคราะห์ปัญหา แก้ปัญหาได้ดี และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง

7. วิชาภาษาจีน
วิชาภาษาจีนจะช่วยพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนและคำศัพท์ภาษาจีน เพื่อช่วยให้มีพื้นฐานที่ดี และสามารถนำไปใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันได้


กิจกรรมนันทนาการ

1. หุ่นยนต์ - เลโก้บูทส์
ผู้เรียนจะได้รับความสนุกสนานจากการเรียนรู้การสร้างหุ่นยนต์อย่างธรรมชาติ ผ่านการลงมือปฏิบัติ ฝึกจินตนาการ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และกระตุ้นให้เกิดทักษะการแก้ปัญหา

2. กีฬา - ว่ายน้ำ
การฝึกว่ายน้ำจะทำให้เด็กได้ออกกำลังกาย ผู้เรียนจะได้ฝึกว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน เริ่มจากฝึกการกลั้นหายใจ เตะขา ลอยตัวให้ถูกวิธี สามารถดูแลตนเองได้ในขณะอยู่ในน้ำ เมื่อผู้เรียนได้ฝึกอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถว่ายน้ำท่าต่างๆ คือฟรีสไตล์ ท่ากรรเชียง ท่ากบ และท่าผีเสื้อได้

3. กีฬา - ฟุตบอล
สอนเทคนิคพื้นฐานการเล่นฟุตบอลที่ถูกวิธี โดยเน้นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างพัฒนการด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ มีความสนุกสนาน มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้จักการทำงานเป็นทีมและมีจิตสาธารณะ

4. คาราเต้-โด (ศิลปะป้องกันตัว)
คาราเต้-โด เป็นศิลปะป้องกันตัว สอนโดยโค้ชจากสมาคมโชโตกัน คาราเต้ แห่งประเทศไทย เรียนตั้งแต่ท่าพื้นฐาน การเรียนคาราเต้-โด จะช่วยให้ผู้เรียนเป็นผู้มีระเบียบวินัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น มีมารยาท มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ทำร้ายผู้อื่น

5. ดนตรี - กีตาร์
เริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐานการจับคอร์ด การอ่านโน้ตเบื้องต้น การฟัง การนับจังหวะ การเรียนดนตรีจะช่วยพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สติปัญญา ช่วยให้ผู้เรียนมีสมาธิ ฝึกทักษะความจำ

6. การเต้นฮิปฮอป
ผู้เรียนจะได้ออกกำลังกาย และความสนุกสนาน ช่วยพัฒนาร่างกายให้แข็งแรง เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว ผ่อนคลาย พัฒนาอารมณ์ จิตใจ เมื่อได้ฝึกฝนมากขึ้น จะได้เรียนรู้เทคนิคการเต้นท่าต่างๆ ที่ยากยิ่งขึ้น และสามารถเต้นให้สวยงามยิ่งขึ้น

7. วิชาศิลปะ
กิจกรรมนี้มีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ตามจินตนาการ ให้ผู้เรียนรู้จักสังเกตและแสดงออกตามความถนัดโดยจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น การวาดภาพ ระบายสี การตัดปะกระดาษ เปเปอร์มาเช่ เป็นต้น

8. ศิลปะลายเส้น
ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนการวาดภาพ ใช้เส้นในทางทัศนศิลป์ การใช้สีประเภทต่างๆ เน้นทักษะและความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ กิจกรรมนี้จะช่วยฝึกสมาธิ ควบคุมอารมณ์ และพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมือและส่งเสริมจินตนาการ

9. นาฏศิลป์ไทย
นักเรียนจะได้ฝึกรำไทยและระบำต่างๆ ปลูกฝังให้เด็กสามารถฟังเพลง เคาะจังหวะ ร้องเพลง เคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะได้อย่างสอดคล้อง กิจกรรมนี้จะช่วยเด็กมีพัฒนาการครบทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา เมื่อนักเรียนได้ฝึกฝนแล้ว โรงเรียนจะจัดให้นักเรียนได้แสดงให้ผู้ปกครองชมตามวาระที่เหมาะสม เช่นกิจกรรมวันปิดภาคเรียน